วางแผนกู้ซื้อบ้านต้องรู้ เงินเดือนเท่านี้ ขอสินเชื่อได้เท่าไหร่ ?
สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน และกำลังวางแผนเพื่อปูทางไปสู่การมีครอบครัว หรือการมีชีวิตส่วนตัวที่มั่นคง คงไม่มีเป้าหมายใดยิ่งใหญ่ไปกว่า 'การมีบ้าน' เพื่อใช้เป็นที่พักผ่อนและพักพิงในยามเหนื่อยล้า แต่บ้านเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง การจะเก็บเงินสดให้ได้ครบเท่าราคาบ้านย่อมต้องใช้เวลานาน กว่าจะเก็บครบ ราคาบ้านและที่ดินก็คงพุ่งทะยานไปไกลแล้ว จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมคนส่วนใหญ่จึงเลือกกู้ซื้อบ้านตามฐานเงินเดือนและความสามารถในการผ่อนชำระ แทนการซื้อด้วยเงินสด
อยากกู้ซื้อบ้าน ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ ?
แน่นอนว่าคำถามนี้ คงเป็นคำถามแรก ๆ ที่อยู่ในใจคนวางแผนจะซื้อบ้าน เพราะงบประมาณคือปัจจัยสำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดว่าคุณจะได้บ้านบนทำเลไหน ขนาดเท่าไหร่ ฟังก์ชันการใช้งานมีอะไรบ้าง อยู่ในโครงการลักษณะใด วัสดุคุณภาพดีแค่ไหน เป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด หรือทาวน์โฮม ตลอดจนภายในโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านใดบ้าง ดังนั้น ยิ่งมีงบประมาณสูง ก็ยิ่งมีโอกาสได้บ้านที่ตรงตามความต้องการมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้ที่มีคำถามว่าหากต้องการกู้ซื้อบ้าน จะต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่ คำตอบก็คือ ในเบื้องต้น เราสามารถกู้ซื้อบ้านได้ตั้งแต่เงินเดือน 15,000 บาทขึ้นไป โดยมีเงื่อนไขว่าต้องผ่านช่วงทดลองงานแล้ว และมีอายุงาน 6 เดือนถึง 1 ปีขึ้นไป
สูตรคำนวณวงเงินอนุมัติเบื้องต้น
ในการจะคำนวณวงเงินกู้ซื้อบ้านจากเงินเดือนนั้น คุณสามารถประเมินวงเงินที่มีโอกาสได้รับอนุมัติในเบื้องต้น โดยการใช้สูตรคำนวณง่าย ๆ ดังนี้
ยกตัวอย่างเช่น คุณ A มีรายได้ 50,000 บาทต่อเดือน สามารถนำมาเขียนเป็นสูตรคำนวณวงเงินอนุมัติได้ว่า (50,000 x 40%) x 150 = 3,000,000 ซึ่งหมายความว่า คุณ A จะมีโอกาสได้รับการอนุมัติวงเงินกู้ซื้อบ้านอยู่ที่ 3,000,000 บาท
แต่ทั้งนี้ เป็นเพียงการคำนวณวงเงินกู้ซื้อบ้านจากเงินเดือนในเบื้องต้นเท่านั้น ส่วนจะได้รับอนุมัติเท่าไหร่ ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของธนาคาร ซึ่งจะประเมินจากปัจจัยอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น อายุ ความสามารถในการผ่อนชำระ รวมถึงหนี้สินที่ผู้ขอกู้มีอยู่ด้วย
รู้จัก LTV อีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพิจารณาวงเงินปล่อยกู้
LTV ย่อมาจาก Loan to Value หมายถึง อัตราส่วนการให้สินเชื่อเมื่อเทียบกับราคาบ้านที่ซื้อ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดขึ้นเพื่อป้องกันปัญหาการก่อภาระหนี้เกินตัว การซื้อบ้านเพื่อเก็งกำไร และเป็นการกำหนดมาตรฐานในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อของธนาคาร โดยมีสูตรการคำนวณ ดังนี้
โดย L คือจำนวนเงินที่ธนาคารอนุมัติ ส่วน V คือราคาบ้าน ยกตัวอย่างเช่น บ้านราคา 10 ล้านบาท ธนาคารอนุมัติเงินกู้ 9 ล้านบาท สามารถคำนวณได้ว่า 9 x 100 / 10 = 90%
ในปี 2567 ธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศผ่อนคลายมาตรการ LTV โดยสาระสำคัญที่คนเตรียมตัวกู้ซื้อบ้านควรรู้ มีดังนี้
กรณีซื้อบ้านหลังแรก
- ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท กู้ได้ 100% และสามารถกู้เพิ่มเพื่อตกแต่งได้ไม่เกิน 10%
- ราคาเกิน 10 ล้านบาท สามารถกู้ได้สูงสุด 90%
กรณีซื้อบ้านหลังที่ 2
- ราคาไม่เกิน 10 ล้านบาท หากกู้หลังผ่อนบ้านหลังแรกน้อยกว่า 2 ปี สามารถกู้ได้ 80% แต่หากกู้หลังผ่อนบ้านหลังแรกเกิน 2 ปีขึ้นไป สามารถกู้ได้ 90%
- ราคาเกิน 10 ล้านบาท กู้ได้สูงสุด 80% ทุกกรณี
กรณีซื้อบ้านหลังที่ 3 กู้ได้สูงสุด 70% ทุกกรณี
วิธีคำนวณอัตราดอกเบี้ยบ้านเบื้องต้น
ปัจจุบัน วิธีคำนวณอัตราดอกเบี้ยบ้านในประเทศไทยแบ่งออกเป็น 2 วิธีหลัก ได้แก่ อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate Loan) และอัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate Loan)
1. อัตราดอกเบี้ยคงที่ (Fixed Rate Loan)
อัตราดอกเบี้ยจะคงที่ตลอดระยะเวลาที่กำหนดไว้ในสัญญา โดยอัตราดอกเบี้ยที่ระบุมักจะมีผลในระยะเวลา 3 ปี 5 ปี หรือ 10 ปี ทำให้ผู้กู้ทราบยอดผ่อนชำระต่อเดือนที่แน่นอนล่วงหน้า จึงสามารถวางแผนการเงินได้ง่าย และไม่ต้องกังวลกับความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย
2. อัตราดอกเบี้ยลอยตัว (Floating Rate Loan)
อัตราดอกเบี้ยจะปรับเปลี่ยนไปตามต้นทุนของสถาบันการเงิน อาจมีการปรับตัวทุก 3 เดือน 6 เดือน หรือแล้วแต่ประกาศจากสถานบันการเงิน บางช่วง อัตราดอกเบี้ยอาจต่ำกว่าแบบคงที่ ขึ้นอยู่กับสภาวะตลาด แต่อาจวางแผนการเงินยาก เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยไม่เท่ากันทุกเดือน
แจกเช็กลิสต์ชวนคิดก่อนกู้ซื้อบ้าน
นอกจากคำถามว่าหากอยากกู้ซื้อบ้าน ต้องมีเงินเดือนเท่าไหร่แล้ว การซื้อบ้านสักหลังถือเป็นภาระผูกพันอันใหญ่หลวง จึงควรพิจารณาอย่างถี่ถ้วน โดยเรารวบรวม 4 เช็กลิสต์น่าคิดก่อนตัดสินใจซื้อบ้านมาแนะนำ ได้แก่
- ราคาบ้านต้องเหมาะสมกับความสามารถในการผ่อนชำระโดยพิจารณาร่วมกับหนี้สินและค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ต้องจ่ายด้วย เพื่อป้องกันเงินสดขาดมือจนส่งผลต่อสภาพคล่องทางการเงิน
- เงินกู้ที่สถาบันการเงินอนุมัติเพียงพอต่อค่าบ้าน ค่าตกแต่ง และค่าต่อเติมไหม หากไม่พอ อาจพิจารณาปรับลดค่าใช้จ่ายในการตกแต่งลง หรือหาเงินจากช่องทางอื่น ๆ เพิ่มเติม
- มีเงินเก็บสำรองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินหรือไม่ เช่น การเกิดอุบัติเหตุ การเจ็บป่วยด้วยโรคร้ายแรง
- การเตรียมพร้อมรับมือความเสี่ยงอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น วิกฤตเศรษฐกิจ โรคระบาด ซึ่งล้วนแต่ต้องใช้เงินสดในการรับมือทั้งสิ้น
เติมเต็มความฝันในการมีบ้านเป็นของตัวเองที่บ้านโครงการใหม่หลากหลายทำเลจาก Noble Development มีให้เลือกทั้งบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์โฮม ออกแบบด้วยความใส่ใจทุกรายละเอียด ตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า พร้อมส่วนกลางที่รองรับความต้องการของสมาชิกทุกคนในครอบครัวได้อย่างสมบูรณ์แบบ นัดหมายเข้าชมโครงการและลงทะเบียนเพื่อรับข้อเสนอพิเศษได้ที่เว็บไซต์ของเรา
ข้อมูลอ้างอิง:
- ส่องสูตรคำนวณสุด EASY เงินเดือนเท่านี้ กู้ซื้อบ้านได้เท่าไหร่. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จาก
https://www.krungsri.com/th/krungsri-the-coach/loan/mortgages/calculate-salary-for-home-loan - เงินเดือน 15000 ซื้อบ้านได้ไหม เด็กจบใหม่อยากซื้อบ้าน 2 ล้าน ทำไงดี. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2567 จาก
https://www.kasikornbank.com/th/propertyforsale/article/pages/salary-15000-can-buy-a-house.