Tips เลือกสีไฟในบ้าน ช่วยสร้างบรรยากาศให้เหมาะกับทุกห้อง !
เคยสังเกตไหมว่า แสงไฟในห้องต่าง ๆ สามารถเปลี่ยนบรรยากาศและอารมณ์ของผู้อยู่อาศัยได้อย่างไม่น่าเชื่อ ? เพราะการเลือกแสงไฟที่เหมาะสมในแต่ละห้องไม่เพียงแต่ช่วยให้บ้านดูสวยงาม แต่ยังช่วยเสริมสร้างความผ่อนคลายและเพิ่มพลังงานด้านบวก ตั้งแต่ห้องนั่งเล่นที่อบอุ่นไปจนถึงห้องนอนที่สงบเงียบ ซึ่งการเลือกสีไฟในบ้านให้ตรงกับฟังก์ชันการใช้งาน ถือเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การอยู่อาศัยมีความลงตัวยิ่งขึ้น

ทำไมสีไฟในบ้านถึงสำคัญกับการออกแบบและตกแต่งบ้าน ?
แสงไฟมีบทบาทสำคัญในการกำหนดอารมณ์และบรรยากาศในแต่ละห้อง ไม่ว่าจะเป็นการสร้างความอบอุ่นในห้องนั่งเล่น หรือมอบความสงบให้แก่ห้องนอน อีกทั้งแสงไฟยังจะช่วยปรับเปลี่ยนพื้นที่และความรู้สึกให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละห้อง ตัวอย่างเช่น
- สีไฟในห้องนอน : ควรเป็นสีโทนส้ม ให้แสงที่อบอุ่นช่วยเสริมการพักผ่อนและลดความเครียด
- สีไฟห้องครัว : ควรเลือกแสงที่สว่างชัดเจน เพื่อช่วยให้การทำอาหารเป็นไปอย่างปลอดภัย
- สีไฟห้องนั่งเล่น : ใช้แสงไฟที่สร้างบรรยากาศอบอุ่นเพื่อให้เหมาะแก่การพักผ่อน ทั้งยังทำให้ครอบครัวรู้สึกเป็นกันเองมากขึ้น
ในการเลือกใช้แสงไฟในบ้าน สามารถแบ่งออกเป็นโทนสีหลัก ๆ ได้ดังนี้
- แสงส้ม (Warm White) อุณหภูมิ 2700k – 3000k เหมาะสำหรับสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย
- แสงสีขาวเย็น (Cool White) อุณหภูมิ 4,000k – 5,000k ให้แสงสีขาวในโทนอุ่น มีความนวล เพิ่มพลังงานและความสดชื่นให้แก่พื้นที่
- แสงธรรมชาติ (Daylight) อุณหภูมิ 6,000k มาพร้อมแสงสีขาวที่เหมือนกับแสงธรรมชาติ ถือเป็นแสงสีที่สว่างมากที่สุด ช่วยให้มองเห็นได้ชัดเจน ทั้งยังให้ความรู้สึกสดใส กระปรี้ประเปร่า กระฉับกระเฉง

การเลือกสีไฟในห้องต่าง ๆ แตกต่างกันอย่างไร ?
สำหรับการเลือกสีไฟในบ้าน ปัจจัยพื้นฐานในการเลือก ควรพิจารณาจาก “ประเภทห้อง” เพื่อให้ได้แสงที่เหมาะสมกับบรรยากาศของห้องมากที่สุด โดยสามารถทำได้ดังนี้
1. ห้องนั่งเล่น
- แสงที่ต้องการ : อ่อนนุ่มและอบอุ่น
- สำหรับไฟห้องนั่งเล่น ควรเป็นแสงโทนอุ่น สบายตา เพราะเป็นศูนย์กลางของบ้านที่มักใช้เพื่อการพักผ่อนและรวมตัวกันของคนในครอบครัว แนะนำให้ใช้แสง Warm White ซึ่งเป็นตัวเลือกยอดเยี่ยมในการสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย และเป็นมิตร
Tips : เพิ่มไฟห้องนั่งเล่นเสริม เช่น โคมไฟตั้งโต๊ะที่มีโทนแสงอบอุ่น เพื่อสร้างมิติและเพิ่มความสบายตา นอกจากนี้ การติดตั้งไฟ LED บริเวณชั้นวางของหรือมุมอ่านหนังสือ นอกจากจะช่วยให้ห้องดูมีมิติ ยังเสริมการใช้งานที่หลากหลายด้วย
2. ห้องทานอาหาร
- แสงที่ต้องการ : ควรมีแสงที่สว่างพอสมควร
- แสงไฟที่ใช้ในห้องทานอาหารควรช่วยเสริมความน่าทานของแต่ละเมนู โดยอาจใช้แสงสีขาวเย็น (Cool White) เพื่อให้สีของอาหารดูสมจริงและชัดเจน
- แต่สำหรับใครที่ต้องการความหรูหรา และอยากสร้างบรรยากาศที่เหมาะกับการสนทนาบนโต๊ะอาหาร พร้อมได้บรรยากาศที่อบอุ่น แสงสีส้ม (Warm White) ก็ตอบโจทย์เช่นกัน
Tips : ควรเลือกโคมไฟที่มีการกระจายแสงแบบลงตรงกลางโต๊ะอาหาร ทั้งยังสามารถเพิ่มไฟตกแต่งบริเวณผนังเพื่อสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นให้มากยิ่งขึ้น
3. ห้องน้ำ
- แสงที่ต้องการ : ชัดเจนและให้ความสว่างสูง
- สำหรับใครที่สงสัยว่าไฟในห้องน้ำใช้แบบไหนถึงเหมาะสมที่สุด คงต้องตอบว่า ควรเลือกแสงไฟที่ให้ความสบายตา เพื่อช่วยให้การทำกิจวัตรส่วนตัวทำได้อย่างสะดวก เช่น การแต่งหน้า การโกนหนวด หรือการล้างหน้า
- แสงไฟแนะนำ ควรเลือกใช้เป็นแสงสีขาวเย็น (Cool White) และแสงธรรมชาติ (Daylight) เพื่อความชัดเจนและช่วยให้พื้นที่ดูสะอาดมากขึ้น
Tips : เลือกไฟที่กระจายแสงได้ดีเพื่อลดเงามืด เช่น ไฟฝังในฝ้า หรือการติดตั้งกระจกที่มีไฟ LED รอบตัวเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
4. ห้องนอน
- แสงที่ต้องการ : ให้ความผ่อนคลายและสบายตา
- ไฟห้องนอน ควรเป็นสีอะไร ? โดยปกติแล้ว ห้องนอนเป็นพื้นที่สำหรับการพักผ่อน แสงที่เลือกใช้จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างบรรยากาศ เพื่อให้พร้อมสำหรับการนอน
- สีไฟในห้องนอนที่เหมาะสม ควรเลือกใช้แสงสีขาวที่ให้ความอบอุ่น หรือแสงสีเหลืองนวล (Warm White) เพื่อสร้างบรรยากาศที่สงบ หรืออาจเพิ่มแสงเสริมอย่างไฟหัวเตียงหรือไฟตั้งพื้นเข้าไป เพื่อเพิ่มความสะดวกในการอ่านหนังสือก่อนนอน
Tips : ใช้โคมไฟหัวเตียงที่สามารถปรับความสว่างได้ หรืออาจใช้การติดตั้งไฟเส้น LED ที่ซ่อนไว้บริเวณเพดานเพื่อเพิ่มมิติและบรรยากาศที่อบอุ่นยิ่งขึ้น
การเลือกไฟเสริมความสะดวกสบายในแต่ละห้อง
- ไฟติดผนัง/ไฟตั้งโต๊ะ : เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่นและห้องนอน เพื่อช่วยเพิ่มบรรยากาศที่อบอุ่นและสามารถใช้เป็นแสงเสริมสำหรับการทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ดี
- ไฟอัตโนมัติ (Motion Sensor) : เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความสะดวกในการใช้งานตอนกลางคืน เช่น ห้องน้ำหรือโถงทางเดิน โดยเฉพาะในบ้านที่มีผู้สูงอายุหรือเด็กเล็ก
- ไฟ LED เสริมในตู้หรือชั้นวางของ : เพิ่มความสะดวกในการหยิบจับสิ่งของในพื้นที่มืดหรือแสงเข้าถึงยาก
การเลือกไฟเสริมเหล่านี้นอกจากจะเพิ่มความสะดวกแล้ว ยังช่วยเพิ่มความปลอดภัยในบ้าน ทั้งยังสามารถออกแบบให้สอดคล้องกับสไตล์การตกแต่งของแต่ละห้อง เพื่อให้บ้านดูสมบูรณ์แบบและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ค้นพบความสนุกของการออกแบบแสงไฟ และเลือกตกแต่งให้บรรยากาศของแต่ละห้องภายในบ้านออกมาได้อย่างสมบูรณ์แบบ เพียงเลือกโครงการบ้านเดี่ยวจาก Noble Development บนหลากหลายทำเลทองที่เหมาะสมกับทุกไลฟ์สไตล์ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมบนเว็บไซต์ และลงทะเบียนเพื่อรับข้อเสนอพิเศษก่อนใครได้เลย
ข้อมูลอ้างอิง:
- Warm white / Cool white / Daylight…เลือกใช้หลอดไฟแบบไหนดี?. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2567 จาก https://www.ofm.co.th/blog/หลอดไฟ-อุณหภูมิสี/
- เลือกใช้สีหลอดไฟแบบไหนให้เหมาะสมกับการใช้งาน ของแต่ละห้อง?. สืบค้นเมื่อวันที่ 30 ธันวาคม 2567 จาก http://www.inside2home.com/สาระเรื่องบ้าน//1191/แชร์เทคนิคการเลือกใช้โทนสีไฟในบ้าน/