โฮมออฟฟิศ พื้นที่ซึ่งผสานชีวิตกับงานได้อย่างลงตัว

หลังจากที่เราก้าวเข้าสู่ยุค New Normal นอกจากรูปแบบการทำงานจะเปลี่ยนไปแล้ว ยังมีธุรกิจรายย่อยเกิดขึ้นมากมาย ซึ่งต้องการความยืดหยุ่นในการใช้พื้นที่มากกว่าสำนักงานทั่วไป “โฮมออฟฟิศ” จึงเป็นคำตอบที่สมบูรณ์แบบ ด้วยการผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างความสะดวกสบายของบ้านและความเป็นมืออาชีพของสำนักงาน พร้อมมอบอิสระในการจัดการเวลาและพื้นที่ทำงานได้ตามต้องการ ในขณะที่ยังคงรักษาบรรยากาศการทำงานแบบ Professional ไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

โฮมออฟฟิศ 3 ชั้น รูปแบบสำนักงานที่ตอบโจทย์ผู้ประกอบการรายย่อย

ข้อดีของโฮมออฟฟิศ ทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับพื้นที่การทำงานแบบใหม่

  • พื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำงาน มีการแบ่งโซนการใช้งานอย่างชัดเจน

    โฮมออฟฟิศในโครงการจัดสรร มักได้รับการออกแบบมาโดยคำนึงถึงการใช้งานเชิงธุรกิจเป็นหลัก โดยจะมีการแบ่งโซนการใช้งานอย่างชัดเจน ทั้งพื้นที่ทำงาน พื้นที่ต้อนรับลูกค้า และพื้นที่พักผ่อน ซึ่งฟังก์ชันลักษณะนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน และสร้างภาพลักษณ์ที่เป็นมืออาชีพให้แก่ธุรกิจ

  • ความยืดหยุ่นที่เหนือกว่าออฟฟิศทั่วไป ช่วยให้พนักงานสามารถควบคุมเวลาและวิธีการทำงานได้อย่างเต็มที่

    ในโฮมออฟฟิศ ผู้ประกอบการสามารถปรับแต่งพื้นที่ให้เข้ากับความต้องการเฉพาะของธุรกิจได้ง่ายกว่า ไม่ว่าจะเป็นการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ การติดตั้งอุปกรณ์เฉพาะทาง หรือแม้แต่การปรับเปลี่ยนพื้นที่ให้สอดคล้องกับความต้องการที่แตกต่างกันในแต่ละช่วงเวลาของธุรกิจ อาทิ ช่วง High Season หรือช่วงเทศกาล บางธุรกิจอาจต้องการพื้นที่เก็บสต๊อกสินค้าเพิ่ม

  • การผสมผสานระหว่างชีวิตและการทำงานอย่างลงตัว ทำให้บรรยากาศไม่เครียดเกินไป

    โฮมออฟฟิศนำเสนอสภาพแวดล้อมที่ผสมผสานความเป็นมืออาชีพของสำนักงาน เข้ากับความอบอุ่นของ “บ้าน” ได้อย่างลงตัว ทำให้บรรยากาศการทำงานในโฮมออฟฟิศมักมีความผ่อนคลายมากกว่าสำนักงานทั่วไป ช่วยลดความตึงเครียดและแรงกดดัน ทั้งผู้ประกอบการและพนักงานจึงรู้สึกสนุกและมีความสุขกับการทำงานมากขึ้น

  • สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ด้วยพื้นที่ส่วนกลางของโครงการที่ช่วยเสริมการทำงานให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น

    โฮมออฟฟิศโครงการใหม่ส่วนใหญ่จะมาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทั้งในส่วนของตัวยูนิตและพื้นที่ส่วนกลาง เช่น ห้องประชุม พื้นที่ Co-working space คาเฟ่ ฟิตเนส สระว่ายน้ำ สวนหย่อม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนช่วยเสริมภาพลักษณ์ของธุรกิจและสิ่งอำนวยความสะดวกให้ทั้งเจ้าของกิจการ พนักงาน และลูกค้าที่มาติดต่อ

  • เทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยที่รองรับการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ

    โฮมออฟฟิศในโครงการจัดสรรยุคปัจจุบัน มักมาพร้อมกับโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีที่รองรับการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น ระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ระบบรักษาความปลอดภัยแบบดิจิทัล ระบบการจัดการอาคารอัจฉริยะ ฯลฯ ช่วยให้ผู้ประกอบการและพนักงานสามารถทำงานได้อย่างสะดวกสบายและปลอดภัยไม่แพ้สำนักงาน

  • ปรับฟังก์ชันการใช้งานได้หลากหลาย จะใช้เป็นที่อยู่อาศัยหรือโฮมออฟฟิศก็ได้

    แม้ว่าโฮมออฟฟิศคือบ้านที่ออกแบบมาเพื่อการใช้งานทางธุรกิจ แต่ข้อดีอีกประการหนึ่งคือ โฮมออฟฟิศสามารถปรับเป็นที่อยู่อาศัย หรือใช้งานอื่น ๆ ได้อีกหลากหลาย เช่น ในช่วงแรก ๆ ของการดำเนินธุรกิจ อาจใช้โฮมออฟฟิศเป็นทั้งที่อยู่อาศัยชั้นบน และที่ทำงานชั้นล่าง แต่เมื่อธุรกิจขยายใหญ่ขึ้น ก็สามารถปรับให้เป็นสำนักงานอย่างเต็มรูปแบบได้เลย หรือหากต้องการขยายกิจการ ก็สามารถเช่าหรือซื้อยูนิตเพิ่มเติมในโครงการเดียวกันได้ง่าย

  • การลงทุนที่สามารถต่อยอดได้ในอนาคต

    การลงทุนในโฮมออฟฟิศโครงการใหม่อาจมีค่าใช้จ่ายสูงในช่วงแรก แต่ถือเป็นการลงทุนที่สามารถนำไปต่อยอดได้ในอนาคต หากต้องการขยายกิจการหรือเปลี่ยนสถานที่ทำธุรกิจ โดยยังสามารถใช้พื้นที่นั้น ๆ ในการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจในอนาคตได้

การใช้ต้นไม้และภาพศิลปะตกแต่งโฮมออฟฟิศ

เทคนิคการออกแบบโฮมออฟฟิศให้ตอบโจทย์การใช้งาน

  • ลงทุนในเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม

    เลือกโต๊ะและเก้าอี้ Ergonomic ที่ออกแบบมาเพื่อการนั่งทำงานโดยเฉพาะ เพื่อลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บจากการทำงาน เช่น ปวดหลัง ปวดคอ หรือกลุ่มอาการ Office Syndrome นอกจากนี้ ควรพิจารณาโต๊ะที่ปรับระดับได้ (Sit-stand desk) เพื่อให้สามารถสลับอิริยาบถระหว่างการนั่งและการยืนทำงาน ช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวและลดผลกระทบจากการนั่งนาน ๆ

  • ใช้อุปกรณ์จัดระเบียบสายไฟเพื่อลดความรุงรังและป้องกันอุบัติเหตุ

    เช่น รางเก็บสายไฟ คลิปหนีบสายไฟ หรือกล่องเก็บสายไฟ ซึ่งช่วยจัดการสายไฟจากคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์เสริม และเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ทำให้โฮมออฟฟิศดูสวยงาม สะอาดตา น่านั่งทำงานมากยิ่งขึ้น

  • สร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลาย

    การตกแต่งโฮมออฟฟิศด้วยต้นไม้หรือพืชสีเขียว สามารถช่วยลดความเครียดและเพิ่มความรู้สึกผ่อนคลายให้แก่พนักงานได้ หรือเจ้าของธุรกิจอยากจะติดภาพศิลปะไว้บนผนังเพื่อสร้างแรงบันดาลใจและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดีย แต่ควรเลือกภาพที่สอดคล้องกับลักษณะของธุรกิจ เช่น ภาพธรรมชาติสำหรับธุรกิจด้านสิ่งแวดล้อม หรือภาพ Abstract สำหรับธุรกิจด้านการออกแบบ

  • แยกพื้นที่ทำงานออกจากพื้นที่พักผ่อนให้ชัดเจน

    การแยกพื้นที่ทำงานออกจากพื้นที่พักผ่อนเป็นสิ่งจำเป็นในการสร้างสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน สามารถทำได้โดยการใช้เฟอร์นิเจอร์ เช่น ชั้นวางหนังสือ หรือฉากกั้นห้อง เพื่อสร้างขอบเขตที่ชัดเจนระหว่างพื้นที่ทำงานและพื้นที่ส่วนตัว นอกจากนี้ การใช้สีหรือวัสดุตกแต่งที่แตกต่างกันในแต่ละโซนยังช่วยเน้นย้ำการแบ่งพื้นที่ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

ปัจจุบัน โฮมออฟฟิศเป็นมากกว่าแค่ทางเลือกในการทำงาน แต่เป็นวิถีชีวิตใหม่ที่เปิดโอกาสให้พนักงานออฟฟิศได้ทำงานในสภาพแวดล้อมที่ร่วมกันสร้างขึ้นเอง รวมถึงช่วยให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ในขณะที่ยังคงรักษาสมดุลในชีวิตไว้ได้ หากคุณกำลังมองหาโฮมออฟฟิศที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนทำงานยุคใหม่ “โนเบิล เคิร์ฟ” (Noble Curve) โฮมออฟฟิศเอกมัย-รามอินทรา อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังมองหา ด้วยแนวคิดการผสมผสานที่อยู่อาศัยและโฮมออฟฟิศเข้าด้วยกันอย่างลงตัว และความสูงถึง 4 ชั้น ทำให้คุณมีอิสระในการออกแบบพื้นที่ชีวิตได้ตามใจ ไม่ว่าจะใช้เป็นทาวน์โฮมสำหรับครอบครัวใหญ่หรือโฮมออฟฟิศสำหรับธุรกิจรายย่อยก็ตอบโจทย์ สามารถลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์เพื่อรับข้อเสนอสุดพิเศษได้แล้ววันนี้

ข้อมูลอ้างอิง:

  1. โฮมออฟฟิศ คืออะไร? มีข้อดีข้อเสียอย่างไร?. สืบค้นเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2567 จาก https://www.glowfishworkplace.com/th/post/pros-and-cons-of-home-office
เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ
ดูทั้งหมด