เทียบชัด ขายใบจองคอนโด ขายดาวน์ และขายโอน แบบไหนได้กำไรดี ?

การลงทุนในคอนโดมิเนียมสักหลัง นอกจากจะเป็นที่อยู่อาศัยได้แล้ว ยังสามารถสร้างผลตอบแทนทางการเงินได้อีกด้วย โดยเฉพาะคอนโดในทำเลศักยภาพที่มีการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเส้นทางรถไฟฟ้า ศูนย์การค้า หรือย่านธุรกิจใหม่ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง

โดยในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ หากสามารถเลือกจังหวะและรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมก็เปรียบเสมือนการเปิดประตูสู่โอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่เหนือกว่า และตอบโจทย์ความต้องการทางการเงินได้มากยิ่งขึ้น ซึ่งปัจจุบัน การขายคอนโดมิเนียมมีให้เลือกถึง 3 รูปแบบหลัก ได้แก่ การขายใบจองคอนโด ขายดาวน์คอนโด และขายโอน ซึ่งแต่ละรูปแบบล้วนแตกต่างกันทั้งในแง่ของระยะเวลา เม็ดเงินลงทุน ไปจนถึงผลตอบแทนที่คาดหวัง

นักลงทุนเลือกชมโครงการเพื่อซื้อเก็บไว้ขายใบจองคอนโดต่อ

1. การขายใบจองคอนโด ทางเลือกยอดนิยมสำหรับนักลงทุนระยะสั้น

การขายใบจองคอนโด คือ การขายสิทธิ์ในใบจองก่อนที่จะทำสัญญาซื้อ-ขายกับทางโครงการ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนอย่างรวดเร็วภายใน 1-2 เดือน เนื่องจากใช้เงินลงทุนเริ่มต้นต่ำ และสามารถทำกำไรจากราคาขายที่เพิ่มขึ้นตามความต้องการของตลาด

ขั้นตอนสำคัญก่อนขายใบจองคอนโด

  • ศึกษาประวัติและความน่าเชื่อถือของผู้พัฒนาโครงการ พร้อมตรวจสอบความสามารถในการดำเนินโครงการว่ามีโอกาสเป็นไปตามแผนมากน้อยแค่ไหน
  • วิเคราะห์ทำเลที่ตั้งและแผนพัฒนาพื้นที่โดยรอบ เพื่อประเมินศักยภาพในการเติบโตของมูลค่าโครงการ
  • ตรวจสอบรายละเอียดห้องชุด เช่น ขนาด ทิศทาง ชั้นที่ตั้ง และจุดเด่นที่สามารถเพิ่มมูลค่าได้
  • ประเมินความต้องการของตลาดในพื้นที่ โดยดูจากสถิติการขายและแนวโน้มของผู้ซื้อ
  • ศึกษาแผนการตลาดและการประชาสัมพันธ์ของโครงการ ว่ามีแนวโน้มดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้มากน้อยเพียงใด

2. การขายดาวน์คอนโดและเปลี่ยนสัญญา ทางเลือกที่ตอบโจทย์นักลงทุนระยะกลาง

การขายดาวน์คอนโด คือ การขายสิทธิ์ในสัญญาซื้อ-ขายแก่ผู้ซื้อรายใหม่ โดยผู้ขายดาวน์คอนโดจะต้องดำเนินการเปลี่ยนสัญญากับทางโครงการ เหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีระยะเวลาลงทุน 6-24 เดือน

ขั้นตอนสำคัญก่อนการขายดาวน์คอนโดและเปลี่ยนสัญญา

  • ตรวจสอบเงื่อนไขการเปลี่ยนสัญญาและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มั่นใจว่าการโอนสิทธิ์เป็นไปได้อย่างราบรื่น
  • ประเมินความคืบหน้าของโครงการและความเสี่ยงในการก่อสร้าง ว่าเป็นไปตามแผนหรือมีโอกาสล่าช้าหรือไม่
  • วิเคราะห์แนวโน้มราคาตลาดและอัตราการเติบโตของราคาคอนโดในพื้นที่
  • ศึกษาเงื่อนไขการชำระเงินและงวดการผ่อนดาวน์ เพื่อคำนวณผลตอบแทนที่คาดว่าจะได้รับ
  • ตรวจสอบความถูกต้องของเอกสารสัญญาทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายในอนาคต

3. การขายโอนคอนโด แนวทางการลงทุนระยะยาวเพื่อผลตอบแทนที่มั่นคง

การขายโอน คือ การขายคอนโดที่ผู้ขายมีกรรมสิทธิ์อย่างสมบูรณ์แล้ว เหมาะสำหรับนักลงทุนระยะยาวที่ถือครองอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไป โดยสามารถสร้างผลตอบแทนเพิ่มเติมจากการปล่อยเช่าในระหว่างรอขาย ทำให้เป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มกระแสเงินสด

ขั้นตอนสำคัญก่อนการขายโอนคอนโด

  • ตรวจสอบภาระผูกพันและการจำนองกับสถาบันการเงิน เพื่อคำนวณต้นทุนในการปลดภาระหนี้
  • ประเมินค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์และภาษีที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมความพร้อมทางการเงิน
  • วิเคราะห์สภาพห้องชุดและค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง เพื่อให้สามารถตั้งราคาขายได้อย่างเหมาะสม
  • ศึกษาระเบียบนิติบุคคลและค่าใช้จ่ายส่วนกลาง เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ซื้อเข้าใจภาระผูกพันระยะยาว
  • ตรวจสอบประวัติการชำระค่าส่วนกลางและหนี้สินที่ค้างชำระ เพื่อป้องกันปัญหาทางกฎหมายหลังการขาย

การขายดาวน์คอนโด เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนภายใน 6-24 เดือน

4 ปัจจัยที่ควรพิจารณาในการเลือกรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสม

1. เงินทุน

นักลงทุนที่มีงบประมาณจำกัด อาจเหมาะกับการลงทุนในรูปแบบการขายใบจองคอนโดหรือการขายดาวน์คอนโด เนื่องจากใช้เงินลงทุนเริ่มต้นน้อย และไม่ต้องรับภาระดอกเบี้ยหรือค่าใช้จ่ายระยะยาว อย่างไรก็ตาม หากมีเงินทุนเพียงพอและสามารถรับภาระทางการเงินได้ การขายโอนคอนโดอาจให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าในระยะยาว เนื่องจากสามารถรอให้มูลค่าอสังหาริมทรัพย์เพิ่มขึ้นได้ก่อนขายออกไป

2. ระยะเวลาการลงทุน

นักลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนอย่างรวดเร็วและไม่ต้องการถือครองทรัพย์สินเป็นเวลานาน การขายใบจองคอนโดถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด เพราะสามารถขายทำกำไรได้ตั้งแต่ก่อนโครงการก่อสร้างเสร็จ ส่วนการขายดาวน์คอนโด แม้จะใช้เวลานานขึ้น แต่ก็ยังคงเป็นวิธีที่ช่วยทำกำไรโดยไม่ต้องถือครองอสังหาริมทรัพย์จนโครงการแล้วเสร็จ ในขณะที่การขายโอนจะเหมาะสำหรับนักลงทุนที่มีความพร้อมในการถือครอง และสามารถรอให้ราคาขายสูงขึ้นก่อนปล่อยขาย

3. ความเสี่ยงที่ยอมรับได้

การเลือกวิธีลงทุนควรพิจารณาถึงระดับความเสี่ยงที่สามารถรับได้ อย่างการขายใบจองคอนโด ที่อาจมีความเสี่ยงในเรื่องของอุปสงค์ กล่าวคือ หากไม่มีผู้ซื้อหรือราคาตลาดลดลง ก็อาจทำให้ขายต่อได้ยาก สำหรับความเสี่ยงของการขายดาวน์คอนโดก็จะคล้าย ๆ กัน เพียงแต่ยังมีโอกาสบริหารจัดการได้ระหว่างที่โครงการกำลังก่อสร้าง ส่วนการขายโอน แม้จะมีโอกาสทำกำไรได้สูง แต่ต้องแบกรับภาระต้นทุน ทั้งค่าผ่อนชำระดอกเบี้ย ค่าบำรุงรักษา และค่าโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งอาจกลายเป็นภาวะกดดันกระแสเงินสดของนักลงทุนได้

4. สภาพตลาดอสังหาริมทรัพย์

ภาวะตลาดเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อโอกาสทำกำไร หากตลาดอยู่ในช่วงขาขึ้น ราคาสินทรัพย์ก็จะมีแนวโน้มเติบโต การลงทุนแบบขายดาวน์คอนโดหรือขายโอนอาจให้ผลตอบแทนสูง เพราะสามารถถือครองได้นานขึ้นเพื่อรอราคาที่เหมาะสม ในทางกลับกัน หากตลาดชะลอตัว หรือมีความไม่แน่นอนสูง การขายใบจองคอนโดอาจเป็นตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า เนื่องจากสามารถทำกำไรได้เร็วและลดความเสี่ยงจากการถือครองอสังหาริมทรัพย์ในช่วงที่ตลาดไม่เอื้ออำนวย

ในท้ายที่สุด การเลือกรูปแบบการลงทุนคอนโดมิเนียมที่เหมาะสมนั้น เปรียบเสมือนการวางรากฐานสำหรับความสำเร็จในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการขายใบจองคอนโดที่ต้องการความรวดเร็วและความแม่นยำในการตัดสินใจ การขายดาวน์คอนโดที่ต้องอาศัยความอดทนและการวิเคราะห์ตลาดอย่างละเอียด หรือการขายโอนที่มุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มในระยะยาว ทุกรูปแบบล้วนมีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่น่าพอใจหากมีการวางแผนที่รอบคอบ แต่ที่สำคัญ ต้องเลือกลงทุนในโครงการที่มีศักยภาพ อย่างคอนโดโครงการใหม่จาก Noble Development ที่ตั้งอยู่ในทำเลระดับพรีเมียม มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมมอบโอกาสการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างพอร์ตการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ที่แข็งแกร่ง สามารถลงทะเบียนเพื่อรับข้อมูลเพิ่มเติม พร้อมรับสิทธิพิเศษในการจองก่อนใครได้แล้ววันนี้ที่เว็บไซต์

ข้อมูลอ้างอิง :

  1. Real Estate: Definition, Types, How to Invest in It. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://www.investopedia.com/terms/r/realestate.asp.
  2. Investing in Real Estate. สืบค้นเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2568 จาก https://www.thebalancemoney.com/investing-in-real-estate-4073643.

โครงการเเนะนำ

เรื่องราวที่คุณอาจสนใจ
ดูทั้งหมด