คอนโดมิเนียมไม่ได้เป็นเพียงที่อยู่อาศัย แต่ยังสะท้อนไลฟ์สไตล์และความต้องการของผู้เป็นเจ้าของได้อย่างดีเยี่ยม นอกจากรูปแบบโครงการและการตกแต่งภายในอันเป็นเอกลักษณ์แล้ว แต่ละโครงการก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกหรือ Facility ภายในคอนโดที่แตกต่างกันออกไปตามคอนเซปต์และรูปแบบโครงการ ก่อนตัดสินใจซื้อ จึงควรศึกษาอย่างละเอียดว่าคอนโดแต่ละแบบควรมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง เพื่อช่วยให้คุณเลือกคอนโดที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ดีที่สุด

เมื่อการเลือกซื้อคอนโดมิเนียมในยุคนี้ ไม่ได้จบลงแค่เรื่องทำเล ขนาดห้อง หรือราคาเท่านั้น แต่ยังมีอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการอยู่อาศัยและการลงทุนในระยะยาว นั่นคือ Facility หรือส่วนกลางของโครงการ ซึ่งมีบทบาทมากกว่าการตกแต่งให้ดูดี เพราะส่งผลโดยตรงต่อทั้งคุณภาพชีวิตและมูลค่าทรัพย์สินในอนาคต ดังนั้น ลองมาทำความเข้าใจในแต่ละแง่มุมกันว่าทำไม Facility ของคอนโด เป็นสิ่งที่คนวางแผนซื้อคอนโดไม่ควรมองข้าม

1. ยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย

Facility ที่ครบครัน เช่น สระว่ายน้ำ ฟิตเนส Co-Working Space หรือสวนพักผ่อน เป็นตัวช่วยให้ผู้อยู่อาศัยใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องออกไปนอกโครงการ ทั้งยังช่วยประหยัดเวลา ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาว และเสริมสุขภาพกายใจอย่างยั่งยืน

2. เพิ่มมูลค่าของคอนโด และช่วยให้ปล่อยเช่าได้ง่ายขึ้น

คอนโดที่มี Facility ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายชัดเจน เช่น คอนโดใกล้รถไฟฟ้าที่มี Co-Working Space สำหรับฟรีแลนซ์ หรือคอนโดในย่านชุมชนที่มีสนามเด็กเล่นสำหรับครอบครัว จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจเมื่อเทียบกับโครงการที่ไม่มี โดยเฉพาะในตลาดเช่าที่ผู้เช่าให้ความสำคัญกับความสะดวกสบายครบวงจร ทำให้ปล่อยเช่าได้เร็วและสามารถตั้งราคาค่าเช่าได้สูงกว่าปกติ

3. ส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบ Community Living ของลูกบ้าน

พื้นที่ส่วนกลางยังทำหน้าที่เป็นตัวกลางสำหรับการพบปะ พูดคุย หรือทำกิจกรรมร่วมกันของลูกบ้าน เช่น Co-Living Space, ห้องประชุม หรือสวนสาธารณะบนดาดฟ้า ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกปลอดภัย ไม่โดดเดี่ยว และมีความสัมพันธ์อันดีในชุมชน ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตทางสังคม แม้จะใช้ชีวิตอยู่ในที่พักอาศัยแนวสูงก็ตาม

4. ส่งผลต่อค่าส่วนกลางที่ผู้ซื้อต้องรับผิดชอบชำระในระยะยาว

แม้ Facility คอนโดจะเป็นข้อดีของการอยู่อาศัย แต่ก็ต้องเข้าใจว่า ‘ค่าส่วนกลาง’ ที่ต้องจ่ายในแต่ละปีนั้น จะมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับจำนวนและประเภทของ Facility ที่มี ยิ่งโครงการมีส่วนกลางหลายจุด อาจมีค่าใช้จ่ายในการดูแลสูงกว่าปกติ หากคุณไม่ได้ใช้งานสิ่งเหล่านั้นบ่อย ๆ ก็อาจกลายเป็นภาระระยะยาวที่ไม่จำเป็น

คนเมืองยุคใหม่ล้วนโหยหาความสงบเป็นส่วนตัว ชอบความสะดวกในการเดินทางแต่ก็อยากหลีกหนีความวุ่นวายของใจกลางเมือง เจ้าของคอนโดกลุ่มนี้จึงมักเป็นพนักงานออฟฟิศระดับกลางถึงระดับผู้บริหาร เจ้าของกิจการ หรือคนโสดที่ชื่นชอบการใช้ไลฟ์สไตล์อิสระ ต้องการคอนโดที่ให้ความรู้สึกเหมือนได้กลับบ้านจริง ๆ มากกว่าที่พักชั่วคราว สำหรับ Facility ที่คนอยากได้คอนโดกลางเมืองควรมองหา จึงได้แก่ Facility เหล่านี้

สวนพักผ่อนและพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่

พื้นที่สีเขียวในคอนโดกลางเมืองเป็นเหมือนโอเอซิสของการใช้ชีวิต ให้คุณได้พักสายตา สูดอากาศสดชื่น และมีพื้นที่เดินเล่นหรือนั่งพักผ่อนเงียบ ๆ ในช่วงหลังเลิกงานหรือวันหยุด

สระว่ายน้ำระบบเกลือ พร้อมโซนพักผ่อนริมสระ

สระว่ายน้ำระบบเกลือปลอดภัยต่อผิวและดวงตา ช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ส่วนโซน Daybed หรือ Cabana ก็เป็นองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้คอนโดได้บรรยากาศคล้ายรีสอร์ต เหมาะกับวันพักผ่อน

ห้องสมุดและ Co-Working Space ที่เงียบสงบ

เทรนด์ Work From Home กำลังมาแรง การมีห้องสมุดจึงตอบโจทย์คนที่ชอบอ่านหนังสือ ทำงานนอกห้อง หรือประชุมเล็ก ๆ โดยไม่ต้องออกไปใช้ร้านกาแฟภายนอกได้เป็นอย่างดี

Fitness Center ที่มีอุปกรณ์ครบครัน

ฟิตเนสช่วยให้คุณดูแลสุขภาพได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปฟิตเนสข้างนอก ซึ่งบางโครงการมีโซน Stretching ห้องโยคะ และห้องพิลาทิสให้บริการด้วย

Facility อื่น ๆ ที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์คนเมือง

นอกเหนือจากส่วนกลางข้างต้น อย่าลืมมองหา Facility เสริมอื่น ๆ ที่ช่วยเติมเต็มการอยู่อาศัยได้ดียิ่งขึ้น เช่น ห้องชมภาพยนตร์ ห้องสตรีม ห้องซาวน่า หรือ Co-Kitchen สำหรับสายทำอาหารที่อยากแชร์พื้นที่ทำครัวกับเพื่อนบ้าน

คอนโด Pet Friendly เป็นรูปแบบโครงการที่ถูกออกแบบมาเพื่อให้ตอบรับความต้องการของกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่เลี้ยงสัตว์ไว้เป็นเพื่อน หรือคู่รักที่ไม่มีบุตรแต่มีสัตว์เลี้ยงเป็นสมาชิกในครอบครัว ดังนั้น กลุ่มผู้พักอาศัยเหล่านี้ย่อมมองว่าสัตว์เลี้ยงคือส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ที่ต้องได้รับคุณภาพชีวิตไม่ต่างจากมนุษย์ แล้วถ้าอยากให้เพื่อนคนสำคัญของคุณมีคุณภาพชีวิตที่ดี Facility ในคอนโดควรมีอะไรบ้าง ไปเช็กกัน

พื้นที่วิ่งเล่นสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet Park & Playground)

สัตว์เลี้ยงต้องการพื้นที่ในการออกกำลังไม่ต่างจากมนุษย์ คอนโด Pet Friendly จึงจำเป็นต้องมีสนามหญ้าสำหรับวิ่งเล่นที่ล้อมรั้วไว้อย่างปลอดภัย บ่อทราย หรือของเล่นอื่น ๆ พร้อมพื้นที่เดินเล่นเพื่อสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของและสัตว์เลี้ยง รวมถึงสร้าง Community ระหว่างผู้พักอาศัยในโครงการ

พื้นที่ Co-Living Space ที่ให้สัตว์เลี้ยงเข้าได้

โซนสำหรับเจ้าของที่ต้องการใช้ชีวิตร่วมกับสัตว์เลี้ยงทั้งในพื้นที่ Facility คอนโด เช่น Co-Working Space หรือ Cafe Lounge เติมเต็มวันพักผ่อนร่วมกับสัตว์เลี้ยงแสนรักได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แบ่งโซนที่สัตว์เลี้ยงสามารถใช้งานได้อย่างชัดเจน

โครงการคอนโด Pet Friendly ส่วนใหญ่ มักออกแบบให้รองรับการอยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะ แต่ในขณะเดียวกัน ก็ยังมีผู้พักอาศัยคนอื่น ๆ รวมอยู่ด้วย โครงการจึงควรแยกโซนพื้นที่สำหรับผู้พักอาศัยทั่วไปและพื้นที่ที่สัตว์เลี้ยงสามารถใช้งานได้อย่างชัดเจน มีทางเข้า-ออกแยกกัน เพื่อรักษาความสะอาดและสุขอนามัย ลดความเสี่ยงในการเกิดความขัดแย้งกับผู้อยู่อาศัยคนอื่น ๆ จากกลิ่นไม่พึงประสงค์หรือการใช้เสียง ทำให้ทุกคนสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

ปิดท้ายด้วย Facility คอนโดสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกหลากหลายวัย ตั้งแต่เด็กเล็ก ผู้ใหญ่ วัยทำงาน ไปจนถึงผู้สูงอายุ คอนโดในลักษณะนี้มักจะออกแบบส่วนกลางให้สามารถใช้งานร่วมกันได้ทุก Generation โดยไม่มีข้อจำกัด และต้องให้ความสำคัญกับความปลอดภัยมากเป็นพิเศษ เพื่อให้คนทุกวัยอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข

สวนสุขภาพและทางเดินออกกำลังกาย (Wellness Park)

พื้นที่ที่ผู้สูงวัยสามารถออกกำลังกายเบา ๆ ได้ทุกวัน พร้อมทางเดินเรียบปลอดภัย ไม่ลื่น ไม่มีขั้นบันไดที่เป็นอุปสรรค เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงและช่วยให้ผู้สูงอายุสามารถสูดอากาศบริสุทธิ์ได้อย่างปลอดภัย

Kids Club และสนามเด็กเล่นในร่ม

พื้นที่เฉพาะของเด็ก ที่มาพร้อมของเล่นและเครื่องเล่นที่ช่วยเสริมพัฒนาการทั้งด้านสมองและกล้ามเนื้อ พร้อมเจ้าหน้าที่ดูแลอย่างใกล้ชิด ทำให้พ่อแม่สามารถพักผ่อนหรือทำงานได้โดยไม่ต้องกังวล

การออกแบบสถาปัตยกรรมโดยใช้หลัก Universal Design

Universal Design คือหลักการออกแบบที่คิดมาเพื่อให้คนทุกช่วงวัยใช้งานได้สะดวก เช่น ประตูบานเลื่อนอัตโนมัติ, พื้นต่างระดับมีทางลาด, ราวจับในห้องน้ำ สร้างความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีปัญหาการเคลื่อนไหว

บริการเสริมเพื่ออำนวยความสะดวก

เพิ่มคุณภาพชีวิตและความสะดวกสบายให้ผู้สูงอายุหรือเด็กวัยเรียนที่จำเป็นต้องอยู่บ้านคนเดียว ด้วยบริการเสริม เช่น Shuttle Bus ไปสถานีรถไฟฟ้า, บริการช่วยซื้อของหรือจัดส่งอาหาร

ระบบช่วยเหลือผู้อยู่อาศัยกรณีเกิดเหตุฉุกเฉิน

เหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วย โครงการจึงควรมีระบบช่วยเหลือฉุกเฉิน เช่น Panic Button หรือ Emergency Call ในห้องพัก เชื่อมต่อกับเจ้าหน้าที่ดูแลอาคารตลอด 24 ชั่วโมง

กำลังวางแผนซื้อคอนโดในกรุงเทพมหานคร เลือกชมโครงการคุณภาพบนหลากหลายทำเลศักยภาพได้ที่ Noble Development ออกแบบทุกโครงการด้วยแนวคิดที่มีผู้อยู่อาศัยเป็นศูนย์กลาง เดินทางสะดวกสบาย พร้อม Facility คอนโดครบครันที่รองรับความต้องการของลูกบ้านในแต่ละโครงการได้สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ทั้งการซื้อเพื่ออยู่เองและเพื่อการลงทุน สามารถนัดหมายเข้าชมห้องตัวอย่าง และลงทะเบียนเพื่อรับสิทธิพิเศษเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของเรา