อสังหาริมทรัพย์ หนึ่งในสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมจากนักลงทุนทุกยุคสมัย เพราะความต้องการด้านที่อยู่อาศัยมีมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่บ้านและที่ดินมีอยู่อย่างจำกัด เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งเพิ่มโอกาสทำกำไรจากการลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บทความนี้จึงจะมาชวนอัปเดตแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567-2568 ที่นักลงทุนไม่ควรพลาด
สรุปมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของรัฐบาลในปี 2567
หากเป็นคนในแวดวงอสังหาริมทรัพย์ ไม่ว่าจะเป็นนักลงทุน ผู้ประกอบการ หรือมีความเกี่ยวข้องด้านอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมนี้ เชื่อว่าช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา หลายคนคงสังเกตเห็นความซบเซาของตลาด ซึ่งสาเหตุหนึ่งก็มาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวม ส่งผลให้อัตราการปฏิเสธสินเชื่อเพิ่มขึ้น หรือกลุ่มคนที่มีกำลังซื้อก็ชะลอการซื้อลงเพื่อเก็บเงินสดไว้ใช้จ่ายในเรื่องที่จำเป็นกว่า เป็นที่มาว่าทำไมในปี 2567 รัฐบาลจึงต้องออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ โดยมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ปี 2567 สามารถสรุปใจความสำคัญออกมาได้ทั้งหมด 6 ข้อ ดังนี้
- ลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% สำหรับบ้านและคอนโดที่ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท
- ลดค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% สำหรับบ้านและคอนโดที่ราคาไม่เกิน 7 ล้านบาท
- สร้างบ้านบนที่ดินเปล่า สามารถนำไปลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา โดยลดหย่อนได้ 10,000 บาท ต่อค่าก่อสร้าง 1,000,000 บาท รวมแล้วต้องไม่เกิน 100,000 บาท สำหรับสัญญาจ้างและการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2567 - 31 ธันวาคม 2568
- สินเชื่อพิเศษสำหรับการซื้ออสังหาริมทรัพย์จากธนาคารอาคารสงเคราะห์และธนาคารออมสิน
- ส่งเสริมการมีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย ผ่านโปรโมชันบ้านเช่าราคาพิเศษ เริ่มต้นเพียง 1,200 บาท/เดือน
- กรณีซื้อบ้านหลังแรกราคาต่ำกว่า 10 ล้านบาท สามารถกู้ได้สูงสุด 110% ของราคาบ้าน ตามมาตรการควบคุมสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย (LTV)
จากมาตรการเหล่านี้ ภาครัฐประเมินว่าจะช่วยกระตุ้นให้ GDP เติบโตขึ้นได้ถึง 1.8% และเป็นประโยชน์ต่อหลายฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นคนที่ต้องการซื้อขายบ้าน ผู้ที่ต้องการสร้างบ้าน ผู้ประกอบการธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และนักลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
อัปเดตแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์น่าสนใจในปี 2567-2568
สำหรับแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ในปี 2567-2568 ต้องบอกว่ามีความเปลี่ยนแปลงค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราขอหยิบยกจุดที่น่าสนใจมาอธิบายเพิ่มเติม 3 ประเด็นด้วยกัน ได้แก่
การปรับตัวของดัชนีค่าเช่า
ในช่วงนี้ เทรนด์การเช่าที่อยู่อาศัยยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ดัชนีค่าเช่าปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งภาพรวมของดัชนีค่าเช่าในกรุงเทพมหานครเพิ่มขึ้นถึง 9% ถึงจะยังไม่ฟื้นตัวกลับมาเท่าช่วงก่อน COVID-19 ระบาด แต่ก็ยังเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับนักลงทุน
ประเภทที่อยู่อาศัยยอดนิยม
ปี 2567-2568 มีแนวโน้มว่าจะเป็นปีทองของที่อยู่อาศัยแนวสูงอย่างคอนโดมิเนียม ซึ่งไม่เพียงแต่ดัชนีค่าเช่าที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเมื่อเทียบกับที่อยู่อาศัยประเภทอื่น ๆ อย่างบ้านเดี่ยวและทาวน์เฮาส์ แต่คอนโดมิเนียมยังโดดเด่นในเรื่องของการมอบความสะดวกสบายและความปลอดภัยครบวงจรด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของการใช้ชีวิตยุคใหม่
เทรนด์นี้ถือว่าสวนทางกับแนวโน้มในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งที่อยู่อาศัยแนวราบ เช่น บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ได้รับความนิยมสูงเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคหลังโควิด-19 แต่ปัจจุบันคอนโดมิเนียมกลับมาเป็นที่ต้องการอีกครั้ง ด้วยความสามารถในการตอบสนองไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ได้อย่างครบถ้วนมากขึ้น ทั้งด้านการเดินทางที่สะดวกสบาย การเข้าถึงแหล่งงาน และสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครัน ทำให้คอนโดมิเนียมเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและคาดว่าจะเติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต
ทำเลที่มีความต้องการเช่าสูง
สุดท้าย เป็นทำเลที่มีศักยภาพสูง ได้รับความนิยมจากผู้เช่ามากเป็นพิเศษ ซึ่งยังคงหนีไม่พ้นโซนใกล้รถไฟฟ้าที่เดินทางสะดวกและอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ ซึ่งเขตปทุมวันมีดัชนีค่าเช่าเพิ่มถึง 16% เขตวัฒนา 13% และเขตคลองสาน 12% เรียกว่าเลือกลงทุนกับอสังหาริมทรัพย์ในทำเลเหล่านี้ อนาคตสดใสแน่นอน
ปัจจัยขับเคลื่อนตลาดอสังหาฯ ที่นักลงทุนต้องรู้
จากแนวโน้มอสังหาริมทรัพย์ปี 2567-2568 ที่เรากล่าวถึงกันไปในข้างต้น หากจะมองให้ลึกลงไปเพื่อวิเคราะห์ตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ สิ่งหนึ่งที่นักลงทุนไม่ควรมองข้าม คือปัจจัยต่าง ๆ ที่ขับเคลื่อนตลาดอสังหาริมทรัพย์ให้เดินหน้า ซึ่งล้วนแต่ส่งผลต่อการวางแผนลงทุนโดยตรง และยังมีปัจจัยในเรื่องความต้องการของผู้เช่าด้วย และนี่คือเทรนด์ที่มีบทบาทในการขับเคลื่อนตลาดอสังหาฯ ที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจเพื่อช่วยให้ตัดสินใจเลือกลงทุนได้อย่างเหมาะสม
1. เทรนด์ Generation Rent
ปัจจัยหรือเทรนด์แรกที่น่าจับตามอง ต้องยกให้ Generation Rent เพราะคนรุ่นใหม่นิยมการเช่ามากกว่าการซื้อขาด เนื่องจากไม่ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่ในระยะยาว กรณีอยากย้ายที่อยู่ให้เหมาะกับสถานที่ทำงานก็ทำได้สะดวก จึงเป็นโอกาสทองของนักลงทุนที่ต้องการซื้อบ้านหรือคอนโดมาปล่อยเช่า หากเลือกทำเลดี โครงการเหมาะสม ก็มีโอกาสปล่อยเช่าได้ในระยะยาว
2. เทรนด์ Universal Design
ประเทศไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในระยะเวลาอันใกล้ คนส่วนใหญ่จึงเริ่มให้ความสำคัญกับการเลือกบ้านหรือคอนโดที่ออกแบบมาเพื่อรองรับผู้สูงอายุมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงเป็นโจทย์สำคัญของผู้ประกอบการและนักลงทุน ว่าจะดีไซน์โครงการ บ้าน หรือคอนโดอย่างไรให้คนทุกช่วงวัยอยู่อาศัยร่วมกันได้อย่างสะดวกสบายมากที่สุด
3. เทรนด์ Pet Humanization
คนรุ่นใหม่จำนวนมากเลือกที่จะมีสัตว์เลี้ยงแทนการมีลูก และเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงอย่างดีเหมือนเป็นสมาชิกคนหนึ่งในครอบครัว ทำให้ที่อยู่อาศัยแบบ Pet Friendly ได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ แต่นอกจากจะอนุญาตให้เลี้ยงสัตว์ได้แล้ว โครงการที่อยู่อาศัยยุคใหม่ยังต้องมาพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับสัตว์เลี้ยงด้วย เช่น พื้นที่ทำกิจกรรมสำหรับสัตว์เลี้ยง การเลือกใช้วัสดุที่ทนน้ำและรอยขีดข่วนได้ดี ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่หลายคนใช้ตัดสินใจเช่าหรือซื้ออสังหาริมทรัพย์เลยทีเดียว
อยากลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างทรัพย์สินให้งอกเงย ที่ Noble Development เรามีโครงการคอนโดมิเนียม ทาวน์เฮาส์ บ้านแฝด และบ้านเดี่ยวบนทำเลศักยภาพให้เลือกหลากหลายแห่ง ทั้งโครงการใกล้รถไฟฟ้าและโครงการใหญ่อีกหลายโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคต สอดคล้องกับแผนพัฒนาของภาครัฐ โอกาสทองในการทำกำไรจากการลงทุนอสังหาฯ เลือกชมโครงการและลงทะเบียนรับข้อเสนอพิเศษจากเราได้ทางเว็บไซต์
ข้อมูลอ้างอิง:
- อัปเดตมาตรการอสังหาริมทรัพย์ 2567 ใครบ้างได้ประโยชน์. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 จาก
https://www.kasikornbank.com/th/kwealth/Pages/a430-t4-evg-estate-policy-kgth.aspx - ซื้อบ้าน-คอนโดปี 2567 ต้องรู้! 8 มาตรการรัฐกระตุ้นอสังหาฯ ใครได้สิทธิบ้าง ลดได้เท่าไหร่. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 จาก
https://thinkofliving.com/คู่มือซื้อขาย/ซื้อบ้าน-คอนโดปี-2567-ต้องรู้-8-มาตรการรัฐกระตุ้นอสังหาฯ-ใครได้สิทธิบ้าง-ลดได้เท่าไหร่-948987/ - แนวโน้มตลาดอสังหาฯ ปี 2024 โอกาสและความท้าทาย. สืบค้นเมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2567 จาก
https://www.ddproperty.com/คู่มือซื้อขาย/แนวโน้มตลาดอสังหา-ปี-2024-โอกาสและความท้าทาย-75812